Cryptocurrency กับ Blockchain

Cryptocurrency คือชื่อที่ใช้เรียกกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัล, สกุลเงินดิจิทัลที่มีการเข้ารหัส

• คริปโทเคอร์เรนซี่ เป็นสินทรัพย์ในรูปแบบดิจิทัล "ที่ไม่มีรูปร่าง"
• มีมูลค่าแปรผันไปตามกลไกของตลาด (Demand & Supply)
• สามารถแลกเปลี่ยนโอนย้ายระหว่างกันได้ ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
• ทำงานบน Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์, ไร้ตัวกลาง

มูลค่าตลาด Cryptocurrency

Cryptocurrency ถือเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโต และมูลค่าที่ค่อนข้างสูง

• รายงานบ่งชี้ว่าสินทรัพย์อันดับแรกอย่าง Bitcoin มี Market Cap สูงกว่า "หกแสนล้านเหรียญสหรัฐ"
• อ้างอิงข้อมูลจาก CoinMarketCap วันที่ 9 July 2021

Assets	Market Cap
Bitcoin	612,669,480,924$
Ethereum	243.986.986.563$
Tether	62,199,345,329$
Cardano	42,037,674,807$
XRP	28,246,842,686$
Dogecoin	28,166,176,695$
USD Coin	25,951,059,874$

ความเสี่ยงในตลาดนี้

สินทรัพย์ในกลุ่ม Cryptocurrency ถือเป็นตลาดที่ "มีความผันผวนสูง"

• ตลาดนี้อาจเป็นทั้งโอกาส และความเสี่ยงในเวลาเดียวกัน
• เนื่องจากการปรับขึ้นลงของราคาที่ค่อนข้างมีความอ่อนไหวสูง
• มีทั้งช่วงที่ราคาเติบโตสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
• และมีช่วงที่ราคาปรับตัวต่ำลงอย่างรุนแรง

---

*ภาพรวมการเปลี่ยนแปลงของราคา Bitcoin ปี 2021

Date	Price
8 January 2021	41,973$
11 January 2021	33,400$
8 February 2021	44,200$
16 February 2021	50,000$
10 April 2021	60,000$
19 May 2021	38,000$

• อ้างอิงข้อมูลราคาย้อนหลังจาก: Wikipedia

Cryptocurrency เป็นฟองสบู่หรือไม่?

ในสังคมออนไลน์ มีความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญหลายคน ที่มีความกังวลกับตลาดนี้

• โดยเกิดเสียงแตกขึ้นระหว่าง ฝั่งที่เชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัล และฝั่งที่ไม่เชื่อมั่นในตลาดนี้
• ซึ่งประเด็นหลักนั้นเกิดจาก การเก็งกำไรจำนวนมากในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้ราคาเหรียญต่างๆ พุ่งสูงขึ้นหลายมาเท่าตัว
• จึงทำให้เกิดความกังวลว่า "ราคาปัจจุบันที่สูงขึ้นมานั้น อาจสูงกว่ามูลค่าจริงที่ควรจะเป็น"

---

ประเด็นที่อาจต้องพิจารณาเพิ่มเติม:

1. การประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์กลุ่มนี้ ค่อนข้างทำได้ยาก

• และดูเหมือนว่ายังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน ว่าจะประเมินมูลค่าที่แท้จริงได้โดยวัดจากอะไร
• มีข้อมูลจากงานวิจัยของ CFA Institute ปี 2021 ซึ่งได้มีการเขียนวิธีการวิเคราะห์มูลค่าของ Bitcoin ไว้ถึง 5 วิธี
• ศึกษาเพิ่มเติม: งานวิจัยของ CFA Institute

2. ความเชื่อมั่นต่อตลาดนี้

• จากการที่ Bitcoin สามารถทำ New-High ขึ้นไปได้หลายครั้ง, เคยเติบโตสูงขึ้นมากว่าพันเปอร์เซ็นต์
• และบริษัทระดับโลกจำนวนมาก เริ่มมีการแบ่งสัดส่วนไปถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล
• ตัวอย่างเช่น: MicroStrategy, Tesla, Square, Marathon Digital Holdings
• ทั้งสองกรณีนี้ เป็นข้อบ่งชี้สำคัญที่สะท้อนว่า สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับการยอมรับ และมีความเชื่อมั่นที่สูงขึ้น

---

*บทสรุปของคำถามนี้

1. ราคาสูงเกินไปหรือไม่

• เนื่องจากการประเมินมูลค่าแท้จริงของสินทรัพย์ในตลาดนี้ ค่อนข้างทำได้ยาก
• วิธีการประเมินที่ใช้สูตรทางสถิติและ Technical Analysis ก็อาจเป็นเพียงการประเมินหรือคาดการณ์เบื้องต้นเท่านั้น
• จากสาเหตุดังกล่าวจึงบ่งชี้ว่า "อาจเป็นไปไม่ได้ที่จะฟันธงว่า ราคาปัจจุบันสูงเกินไปหรือไม่"

2. ผลกระทบจากรายใหญ่

• สิ่งที่เห็นได้ชัดในปัจจุบันคือ บริษัทระดับโลกหลายแห่งให้ความสนใจ และมีสัดส่วนในการถือครองคริปโตสูงขึ้น
• ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้สำคัญที่สะท้อนว่า ภาคธุรกิจต่างๆ มีความเชื่อมั่นในตลาดนี้ และเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้น

ผู้คนส่วนใหญ่ สนใจตลาดนี้มากแค่ไหน?

ข้อมูลสถิติย้อนหลัง 5 ปี เกี่ยวกับความสนใจในตลาดนี้โดย Google Trends

• ได้ข้อบ่งชี้ว่ามีผู้คนจำนวนมากทั่วโลก ที่ให้ความสนใจในตลาดนี้
• กระแสความนิยมเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีช่วงที่กระแสขึ้นสูงสุดคือเดือนพฤษภาคม 2021
• แต่หลังจากเดือนพฤษภาคม ดูเหมือนว่ากระแสความนิยมกลับเริ่มลดน้อยลง

Blockchain Technology

สกุลเงินดิจิทัลทำงานผ่านระบบเครือข่ายที่เรียกว่าบล็อกเชน (Blockchain)

Blockchain คือเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล แบบไร้ตัวกลาง

• เป็นวิธีการทำสำเนาไว้ในเครื่องของทุกคนบนเครือข่าย ในรูปแบบเสมือนห่วงโซ่
• โดยระบบจะบันทึก, ตรวจสอบ และยืนยันข้อมูลว่าใครเป็นเจ้าของสินทรัพย์ แล้วแจ้งให้ทุกคนในเครือข่ายรับรู้
• ระบบดังกล่าวสามารถช่วยในการตรวจสอบความถูกต้อง และได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยค่อนข้างสูง

---

ข้อดีของเทคโนโลยี Blockchain

• ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ได้รับการยอมรับอย่างเป็นวงกว้างว่า มีความปลอดภัยสูง
• เพราะกระบวนการทำงาน ที่ยากต่อการเกิดความผิดพลาด และยากต่อการเจาะรหัส
• ฐานข้อมูลถูกกระจายบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเปิดเผยเป็นสาธารณะ ทุกคนสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้
• Transaction ที่ถูกบันทึกไว้ในเครือข่าย Blockchain จึงยากที่จะเข้าไปแก้ไข หรือเจาะระบบ
• กระบวนการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ Chain ส่งผลให้โครงสร้างระบบมีความแข็งแกร่ง แม้มีจุดหนึ่งที่เสียระบบก็จะไม่ล่ม

---

ปัจจุบันเทคโนโลยีบล็อกเชนยังถูกนำไปใช้ใน อุตสาหกรรมอื่น ๆ จำนวนมาก

• ซึ่งช่วยให้การสื่อสาร การตรวจสอบข้อมูลเกิดความรวดเร็ว และมีความแม่นยำที่สูงยิ่งขึ้น
• โดยเทคโนโลยีนี้เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และกำลังถูกมองว่านี่เป็น Technology Disruption
• เนื่องจากประโยชน์อันมหาศาล ที่อาจเข้ามาช่วยพัฒนาระบบของอุตสาหกรรมต่างๆ
• และดูเหมือนว่ากำลังเทคโนโลยีนี้ กำลังก้าวเข้ามาในชีวิตประจำวัน และยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างการนำ Blockchain ไปใช้ในภาคธุรกิจต่างๆ

1. กลุ่มธุรกิจการเงิน

• การจัดการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าเพื่อทำข้อมูล Credit Score
• การตรวจสอบความถูกต้อง และเส้นทางของธุรกรรมต่าง ๆ

2. กลุ่มโรงพยาบาล

• การจัดเก็บข้อมูลของผู้ป่วย ประวัติการเข้ารักษา ซึ่งเชื่อมโยงกันในเครือข่ายโรงพยาบาล
• การตรวจสอบคลังสต็อกของยา และแหล่งที่มาของยา

3. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

• การตรวจสอบความเป็นเจ้าของ
• การจัดเก็บข้อมูลโฉนดอสังหาริมทรัพย์

4. ธุรกิจค้าปลีก

• การจัดการเรื่องระบบคลังสินค้า (Warehouse)
• การจัดการภาคขนส่ง (Logistics) และระบบการ Tracking

5. และอื่น ๆ อีกมากมาย

• ตัวอย่างเช่น: การทำ Digital ID และการทำ e-Voting System

ศึกษาต่อ เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

• การวิเคราะห์สภาวะตลาด
• Indicator ที่ควรรู้จัก